ประกาศคณะกรรมการขายทอดตลาด
สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร สำนักงาน ป.ป.ส.
เรื่อง ขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมที่จะเก็บรักษาไว้
ครั้งที่ 6/2567
ด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.)
มีความประสงค์จะขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมที่จะเก็บรักษาไว้ ประเภทอื่น ๆ และรถยนต์และยานพาหนะ
ตามคำสั่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ 4334/2567 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 จำนวน 64 รายการ โดยจะทำการขายทอดตลาด รวม 2 นัด ดังนี้
นัดที่ 1 วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567
นัดที่ 2 วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567
ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยจะทำการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายประกาศ และมีเงื่อนไขในการขายทอดตลาด ดังนี้
1. ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาสามารถติดต่อขอดูทรัพย์สินและลงทะเบียนที่จะขายทอดตลาด ดังนี้
1.1 ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาติดต่อขอดูทรัพย์สินตามสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สิน เวลา 11.00 – 14.00 น. ดังนี้
- ทรัพย์สินรายการที่ 1 ณ ท่าอากาศยานหัวหิน เลขที่ 65 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
- ทรัพย์สินรายการที่ 2 – 64 ณ บริษัท ควีนเลเธอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 888 หมู่ที่ 6 ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ และ บริษัท โมเดิร์น เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 89 หมู่ที่ 8 ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
โดยทรัพย์สินที่ประกาศขายทอดตลาดทุกรายการทั้งหมดเป็นการประมูลขายตามสภาพ สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในข้อผิดพลาดของรายละเอียดทรัพย์สิน รวมถึงไม่มีการรับประกันสภาพทรัพย์สิน เช่น เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฮบริค ระบบเชื้อเพลิง อุปกรณ์ส่วนควบ อุปกรณ์ตกแต่ง โครงสร้าง ฯลฯ และสำนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้ตรวจดูสภาพทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดจนเป็นที่พอใจแล้ว และจะไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินไม่ว่ากรณีใดๆ
1.2 กำหนดการลงทะเบียนประมูลสู้ราคา
นัดที่ 1 วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
นัดที่ 2 วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ขอกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การขายทอดตลาด ดังนี้
1.2.1 การขายทอดตลาดจะดำเนินการตามประกาศขายทอดตลาดและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
1.2.2 การสู้ราคาการขายทอดตลาดจะต้องเป็นหมายเลขของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
ทั้งนี้ ในการลงทะเบียนประมูลจะต้องแสดงหลักฐานบุคคลหรือหลักฐานการเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น และจะต้องลงทะเบียนวางเงินประกันค่าป้ายประมูล จำนวน 500 บาท โดยผู้ประมูลจะต้องนั่งตามหมายเลขลงทะเบียนที่กำหนดไว้
1.2.3 กรรมการขายทอดตลาดขอสงวนสิทธิ์ในการถอนการประมูล หรือยุติการขายทอดตลาด หากผู้ประมูลไม่ปฏิบัติตามระเบียบ หรือก่อความไม่สงบในการขายทอดตลาดในรายการนั้นๆ
1.3 ผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาในการประมูลทรัพย์สินที่มีราคาตั้งแต่ 1,000,000 บาท เป็นต้นไป จะต้องวางหลักประกันในการเข้าสู้ราคาเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคารในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล รายการละ 10% ของราคาเริ่มต้น สั่งจ่าย “เก็บรักษาทรัพย์สินคดียาเสพติด (เงินจากการขายทอดตลาด) โดย ปปส.กทม.” ต่อคณะกรรมการขายทอดตลาดก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จแล้ว ในกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ชนะการประมูลให้ถือว่าหลักประกันของผู้สู้ราคาผู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
2. ดำเนินการประมูลราคาโดยปากเปล่า ต่อหน้าคณะกรรมการขายทอดตลาดของสำนักงาน ป.ป.ส. และต่อหน้าผู้สู้ราคาที่มีอยู่
3. คณะกรรมการขายทอดตลาด จะแสดงความตกลงด้วยการเคาะไม้ แต่หากคณะกรรมการขายทอดตลาดเห็นว่าราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดยังไม่เพียงพอกับราคาทรัพย์สินที่จะขาย คณะกรรมการขายทอดตลาดอาจถอนรายการที่ไม่เห็นสมควรขายนั้น ๆ ออกจากการขายทอดตลาดได้และสำนักงาน ป.ป.ส. ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะยกเลิกการขายในรายการที่ไม่เห็นสมควรนั้น ๆ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ผู้เข้าสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
4. หากคณะกรรมการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายการใดรายการหนึ่งให้กับผู้สู้ราคาสูงสุดรายใดแล้ว ผู้นั้นจะต้องชำระเงินในรายการนั้นทันที หรือชำระเงินมัดจำไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของราคาที่ประมูลได้ ในกรณีที่ราคาประมูลของทรัพย์สินมีราคาตั้งแต่หนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะออกใบรับเงินไว้เป็นหลักฐาน และทำสัญญาโดยมีเงื่อนไขในการชำระราคาส่วนที่เหลือให้เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกิน 30 วันนับแต่วันขาย หากไม่ชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด สำนักงาน ป.ป.ส. จะริบเงินมัดจำนั้นเสีย และหากการขายครั้งใหม่ได้เงินจำนวนสุทธิไม่คุ้มกับการขายทอดตลาดครั้งก่อน ผู้ซื้อเดิมจะต้องรับผิดชดใช้ราคาส่วนที่ขาดอยู่นั้น
5. กรณีทรัพย์สินรายการใดคณะกรรมการขายทอดตลาดกำหนดให้มีการวางหลักประกันผู้เข้าสู้ราคาจะต้องวางหลักประกันเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคาร ในวงเงินตามบัญชีแนบท้ายประกาศก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนหลักประกันให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จสิ้นแล้ว และกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ประมูลซื้อได้ให้ถือว่าหลักประกันของผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
6. สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ในการถอนทรัพย์สินรายการใดๆ ตามประกาศออกจากการขายก่อนการขายทอดตลาดตามความเหมาะสม เพื่อให้การขายเป็นไปโดยเรียบร้อย โดยผู้ที่เข้าร่วมประมูลสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
7. การขนย้ายทรัพย์สิน ผู้ซื้อจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวไปจากสถานที่ที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่และจะต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และค่าภาษีค้างชำระในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อต้องขนย้ายทรัพย์สินภายใน 7 วันหลังจากได้ชำระเงินเสร็จสิ้น ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ประมูลได้ ยังไม่ได้ขนย้ายไปผู้ประมูลได้เป็นผู้รับผิดชอบในการเสื่อมสภาพของตัวทรัพย์และค่าใช้จ่ายที่มีขึ้น
8. ค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียมการฝากทรัพย์ ที่เกิดขึ้นกับผู้ฝาก ผู้ชนะการประมูลจะต้องเป็นผู้ชำระให้กับผู้รับฝาก ตามเงื่อนไขของผู้รับฝาก
9. ผู้ประมูลได้ต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ชำระเงินครบถ้วน หากผู้ประมูลได้ไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ประมูลได้จะไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายอันเกิดจากการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ประมูลได้
10. กรณีขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทยานพาหนะ ให้เป็นหน้าที่ของผู้เข้าสู้ราคาที่จะต้องตรวจสอบข้อมูล และเงื่อนไขการจดทะเบียนของยานพาหนะดังกล่าวตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดก่อนการเข้าสู้ราคา และในขณะทำการขายทอดตลาดทรัพย์สินให้ถือว่าผู้เข้าสู้ราคารับทราบข้อมูลและยอมรับเงื่อนไขการจดทะเบียนของยานพาหนะดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ในการลงทะเบียนต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือบัตรแสดงตนที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดงในวันขายทอดตลาดด้วย และในกรณีที่ผู้สู้ราคาประสงค์จะเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น ให้แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา ถ้าไม่แสดงให้ถือว่าเข้าสู้ราคา
ในนามตนเอง และลำดับรายการทรัพย์สินตามบัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการขายทอดตลาดนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th/ข่าวขายทอดตลาดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2588 5037-9 ต่อ 13008 , 24009ประกาศคณะกรรมการขายทอดตลาด
สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร สำนักงาน ป.ป.ส.
เรื่อง ขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมที่จะเก็บรักษาไว้
ครั้งที่ 6/2567
ด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.)
มีความประสงค์จะขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมที่จะเก็บรักษาไว้ ประเภทอื่น ๆ และรถยนต์และยานพาหนะ
ตามคำสั่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ 4334/2567 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 จำนวน 64 รายการ โดยจะทำการขายทอดตลาด รวม 2 นัด ดังนี้
นัดที่ 1 วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567
นัดที่ 2 วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567
ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยจะทำการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายประกาศ และมีเงื่อนไขในการขายทอดตลาด ดังนี้
1. ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาสามารถติดต่อขอดูทรัพย์สินและลงทะเบียนที่จะขายทอดตลาด ดังนี้
1.1 ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาติดต่อขอดูทรัพย์สินตามสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สิน เวลา 11.00 – 14.00 น. ดังนี้
- ทรัพย์สินรายการที่ 1 ณ ท่าอากาศยานหัวหิน เลขที่ 65 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
- ทรัพย์สินรายการที่ 2 – 64 ณ บริษัท ควีนเลเธอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 888 หมู่ที่ 6 ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ และ บริษัท โมเดิร์น เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 89 หมู่ที่ 8 ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
โดยทรัพย์สินที่ประกาศขายทอดตลาดทุกรายการทั้งหมดเป็นการประมูลขายตามสภาพ สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในข้อผิดพลาดของรายละเอียดทรัพย์สิน รวมถึงไม่มีการรับประกันสภาพทรัพย์สิน เช่น เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฮบริค ระบบเชื้อเพลิง อุปกรณ์ส่วนควบ อุปกรณ์ตกแต่ง โครงสร้าง ฯลฯ และสำนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้ตรวจดูสภาพทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดจนเป็นที่พอใจแล้ว และจะไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินไม่ว่ากรณีใดๆ
1.2 กำหนดการลงทะเบียนประมูลสู้ราคา
นัดที่ 1 วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
นัดที่ 2 วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ขอกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การขายทอดตลาด ดังนี้
1.2.1 การขายทอดตลาดจะดำเนินการตามประกาศขายทอดตลาดและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
1.2.2 การสู้ราคาการขายทอดตลาดจะต้องเป็นหมายเลขของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
ทั้งนี้ ในการลงทะเบียนประมูลจะต้องแสดงหลักฐานบุคคลหรือหลักฐานการเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น และจะต้องลงทะเบียนวางเงินประกันค่าป้ายประมูล จำนวน 500 บาท โดยผู้ประมูลจะต้องนั่งตามหมายเลขลงทะเบียนที่กำหนดไว้
1.2.3 กรรมการขายทอดตลาดขอสงวนสิทธิ์ในการถอนการประมูล หรือยุติการขายทอดตลาด หากผู้ประมูลไม่ปฏิบัติตามระเบียบ หรือก่อความไม่สงบในการขายทอดตลาดในรายการนั้นๆ
1.3 ผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาในการประมูลทรัพย์สินที่มีราคาตั้งแต่ 1,000,000 บาท เป็นต้นไป จะต้องวางหลักประกันในการเข้าสู้ราคาเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคารในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล รายการละ 10% ของราคาเริ่มต้น สั่งจ่าย “เก็บรักษาทรัพย์สินคดียาเสพติด (เงินจากการขายทอดตลาด) โดย ปปส.กทม.” ต่อคณะกรรมการขายทอดตลาดก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จแล้ว ในกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ชนะการประมูลให้ถือว่าหลักประกันของผู้สู้ราคาผู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
2. ดำเนินการประมูลราคาโดยปากเปล่า ต่อหน้าคณะกรรมการขายทอดตลาดของสำนักงาน ป.ป.ส. และต่อหน้าผู้สู้ราคาที่มีอยู่
3. คณะกรรมการขายทอดตลาด จะแสดงความตกลงด้วยการเคาะไม้ แต่หากคณะกรรมการขายทอดตลาดเห็นว่าราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดยังไม่เพียงพอกับราคาทรัพย์สินที่จะขาย คณะกรรมการขายทอดตลาดอาจถอนรายการที่ไม่เห็นสมควรขายนั้น ๆ ออกจากการขายทอดตลาดได้และสำนักงาน ป.ป.ส. ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะยกเลิกการขายในรายการที่ไม่เห็นสมควรนั้น ๆ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ผู้เข้าสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
4. หากคณะกรรมการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายการใดรายการหนึ่งให้กับผู้สู้ราคาสูงสุดรายใดแล้ว ผู้นั้นจะต้องชำระเงินในรายการนั้นทันที หรือชำระเงินมัดจำไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของราคาที่ประมูลได้ ในกรณีที่ราคาประมูลของทรัพย์สินมีราคาตั้งแต่หนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะออกใบรับเงินไว้เป็นหลักฐาน และทำสัญญาโดยมีเงื่อนไขในการชำระราคาส่วนที่เหลือให้เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกิน 30 วันนับแต่วันขาย หากไม่ชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด สำนักงาน ป.ป.ส. จะริบเงินมัดจำนั้นเสีย และหากการขายครั้งใหม่ได้เงินจำนวนสุทธิไม่คุ้มกับการขายทอดตลาดครั้งก่อน ผู้ซื้อเดิมจะต้องรับผิดชดใช้ราคาส่วนที่ขาดอยู่นั้น
5. กรณีทรัพย์สินรายการใดคณะกรรมการขายทอดตลาดกำหนดให้มีการวางหลักประกันผู้เข้าสู้ราคาจะต้องวางหลักประกันเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคาร ในวงเงินตามบัญชีแนบท้ายประกาศก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนหลักประกันให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จสิ้นแล้ว และกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ประมูลซื้อได้ให้ถือว่าหลักประกันของผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
6. สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ในการถอนทรัพย์สินรายการใดๆ ตามประกาศออกจากการขายก่อนการขายทอดตลาดตามความเหมาะสม เพื่อให้การขายเป็นไปโดยเรียบร้อย โดยผู้ที่เข้าร่วมประมูลสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
7. การขนย้ายทรัพย์สิน ผู้ซื้อจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวไปจากสถานที่ที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่และจะต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และค่าภาษีค้างชำระในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อต้องขนย้ายทรัพย์สินภายใน 7 วันหลังจากได้ชำระเงินเสร็จสิ้น ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ประมูลได้ ยังไม่ได้ขนย้ายไปผู้ประมูลได้เป็นผู้รับผิดชอบในการเสื่อมสภาพของตัวทรัพย์และค่าใช้จ่ายที่มีขึ้น
8. ค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียมการฝากทรัพย์ ที่เกิดขึ้นกับผู้ฝาก ผู้ชนะการประมูลจะต้องเป็นผู้ชำระให้กับผู้รับฝาก ตามเงื่อนไขของผู้รับฝาก
9. ผู้ประมูลได้ต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ชำระเงินครบถ้วน หากผู้ประมูลได้ไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ประมูลได้จะไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายอันเกิดจากการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ประมูลได้
10. กรณีขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทยานพาหนะ ให้เป็นหน้าที่ของผู้เข้าสู้ราคาที่จะต้องตรวจสอบข้อมูล และเงื่อนไขการจดทะเบียนของยานพาหนะดังกล่าวตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดก่อนการเข้าสู้ราคา และในขณะทำการขายทอดตลาดทรัพย์สินให้ถือว่าผู้เข้าสู้ราคารับทราบข้อมูลและยอมรับเงื่อนไขการจดทะเบียนของยานพาหนะดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ในการลงทะเบียนต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือบัตรแสดงตนที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดงในวันขายทอดตลาดด้วย และในกรณีที่ผู้สู้ราคาประสงค์จะเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น ให้แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา ถ้าไม่แสดงให้ถือว่าเข้าสู้ราคา
ในนามตนเอง และลำดับรายการทรัพย์สินตามบัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการขายทอดตลาดนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th/ข่าวขายทอดตลาดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2588 5037-9 ต่อ 13008 , 24009